วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กิจกรรมท้ายหน่วยการเรียนรู้ที่ 5 การบริหารงานบุคคลประจำศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้

แบบทดสอบท้ายบท
1. อธิบายภารกิจหรือกิจกรรมที่สำคัญๆ ของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้มีอะไรบ้าง
ตอบ - การจัดหาสื่อประเภทต่างๆ ไว้สาหรับบริการ
- การผลิตสื่อเพื่อนามาใช้ในการเรียนการสอน
- การจัดระบบ จัดเก็บ แยกหมวดหมู่และจัดทาทะเบียน
- การบริการให้ยืมวัสดุ เครื่องมืออุปกรณ์
- การให้คาปรึกษา แนะนาการใช้และการผลิตสื่อ
- การวิจัยและพัฒนาสื่อ

2. ถ้าหากพิจารณาบทบาทหน้าที่ และความรับผิดชอบในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ จะประกอบด้วยบุคคลด้านใดบ้าง
ตอบ  - ด้านบริหาร โดยต้องมีการกำหนดวิสัยทัศน์ จุดมุ่งหมายและภารกิจต่างๆ ให้ครอบคลุมงานหรือสิ่งที่ต้องทำการจัดดาเนินงาน การจัดบุคลากร การนิเทศ การติดต่อประสานงาน การทำงบประมาณ การกำหนดมาตรฐานของงาน เพื่อให้หน่วยงานบรรลุเป้าหมายที่วางไว้
- ด้านการบริการ เป็นภารกิจของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ที่นาโครงการต่างๆออกสู่ กลุ่มเป้าหมาย
- ด้านการผลิตสื่อ ทำหน้าที่ในการออกแบบและผลิตสื่อการเรียนการสอน
- ด้านวิชาการ ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ต้องมีบทบาทและหน้าที่ในการศึกษาค้นคว้า พัฒนาและเผยแพร่ผลงาน
- ด้านการปรับปรุงการเรียนการสอน ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ต้องมีภารกิจหน้าที่ความรับผิดชอบต่อการศึกษาเป็นสำคัญในการจัดหาสื่อมาใช้ในการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมและเนื้อหาแต่ละวิชา
- ด้านกิจกรรมอื่น

3. ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ จำแนกเป็นประเภทที่สำคัญได้กี่ประเภท
ตอบ  1. บุคลากรทางวิชาชีพ (Professional Staff)
2. บุคลากรกึ่งวิชาชีพ (Paraprofessional Staff) บุคลากรกึ่งวิชาชีพ คือ บุคคลที่ได้วุฒิประกาศนียบัตรวิชาชีพโดยมีหน้าที่ช่วยเหลือบุคลากรทางวิชาชีพเกี่ยวกับด้านเทคนิคหรือด้านบริการ
3. บุคลากรที่ไม่มีความรู้ทางวิชาชีพ (Non-professional Staff) บุคลากรประเภทนี้ทำหน้าที่ทางด้านธุรกิจ เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ฯลฯ ซึ่งจะมีคุณวุฒิหลากหลายจะใช้ความรู้ความชำนาญเฉพาะในหน้าที่ของตน ดังนั้นจะเห็นได้ว่าจานวนบุคคลในแต่ละประเภทจะมีมากหรือน้อยย่อมขึ้นอยู่กับนโยบาย ขนาดหรือปริมาณของงาน ขอบเขตของการให้บริการ ลักษณะของระบบงานบริการ จานวนผู้ใช้บริการ และงบประมาณของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้แต่ละแห่งเป็นสำคัญ

4. ท่านมีขั้นตอนในการจัดหาสื่อการเรียนการสอน มาใช้บริการในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้อย่างไร จงอธิบาย
ตอบ ขั้นตอนที่ 1 เป็นขั้นการสำรวจสภาพของสื่อในสถานศึกษาเพื่อสำรวจหาข้อเท็จจริงเบื้องต้นเป็นข้อมูลมาประกอบการจัดหา
ขั้นตอนที่ 2 การสำรวจสถานที่ เป็นขั้นตอนการสำรวจวางแผนจะให้สถานที่ส่วนใดบ้างในการทำกิจกรรม เพื่อเป็นการตรวจสอบดูว่ามีสถานที่และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ต้องการมีเพียงพอแล้วหรือยังและจะต้องการจัดหาอะไรเพิ่มเติมบ้าง
ขั้นตอนที่ 3 การสำรวจความต้องการของผู้ใช้ เพื่อต้องการทราบถึงความต้องการใช้สื่อประเภทต่างๆ โดยนำข้อมูลที่ได้ไปดำเนินการจัดหาให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้ ดังนั้นก่อนการจัดหาหรือจัดซื้อสื่อมาไว้บริการ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสำรวจและศึกษาความต้องการของผู้ใช้ก่อนเสมอ
ขั้นตอนที่ 4 เป็นขั้นการจัดหา โดยนำข้อมูลที่ได้มาจากความต้องการแล้วทำเป็นโครงการสั้นๆ หรือโครงการระยะยาวเพื่อวางแผนในเรื่องงบประมาณในการจัดหาต่อไป

5. อธิบายวิธีการจัดซื้อจัดหาวัสดุครุภัณฑ์เพื่อมาใช้ในกิจกรรมและบริการ ท่านมีหลักเกณฑ์สำคัญ อะไรบ้าง
ตอบ  1. ความคงทน(Ruggedness) โดยพิจารณาถึงวัสดุที่ประกอบเป็นตัวเครื่องให้ความคงทนแข็งแรง ไม่แตกหักง่าย
2. ความสะดวกในการใช้งาน (Ease of Operation) โดยพิจารณาถึงการควบคุม การบังคับกลไกไม่ซับซ้อนจนเกินไปหรือมีปุ่มต่างๆมากมายเกินไป 
3. ความกะทัดรัด (Portability) โดยพิจารณาถึงขนาดของตัวเครื่อง น้ำหนัก ความสะดวกในการเก็บและเคลื่อนย้าย
4. คุณภาพของเครื่อง(Quality of Peration) เป็นการพิจารณาเกี่ยวกับมาตรฐานที่ประกอบรวมกันเป็นไปตามคุณสมบัติต้องการใช้งานเพียงใด
5. การออกแบบ (Design) เป็นการพิจารณาเกี่ยวกับรูปลักษณ์ว่าสวยงามมีความทันสมัย การติดตั้งอุปกรณ์ประกอบออกแบบให้ใช้ได้ง่าย
6. ความปลอดภัย (Safety) เป็นการพิจารณาว่ามีส่วนใดส่วนหนึ่งที่น่าจะเกิดอุบัติเหตุหรืออันตรายได้ง่ายขณะใช้งาน
7. ความสะดวกในการบำรุงรักษาละซ่อมแซม (Ease of Maitenance and Repair) เป็นการพิจารณาว่ามีส่วนประกอบใดที่ยุ่งยากต่อการซ่อมแซมหรือมีความยากลำบากในการดูแลรักษาหรือมีส่วนประกอบที่เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงเมื่อชำรุดแล้วไม่สามารถซ่อมแซมได้เลย
8. ราคา (Cost) ในการจัดซื้อจัดหาวัสดุอุปกรณ์มาใช้หรือเพื่อบริการควรคำนึงถึงราคาซึ่งไม่แพงเกินไปที่สำคัญพิจารณาถึงความสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการใช้งานแล้วจึงนำไปเปรียบเทียบกับยี่ห้ออื่น เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดเหมาะสมกับราคาและคุณภาพของเครื่องมืออุปกรณ์นั้น
9. ชื่อเสียงของบริษัทผู้ผลิต(Reputation of Manufacturer) การพิจารณาบริษัทผู้ผลิตเพื่อจะได้ทราบว่าวัสดุอุปกรณ์ที่ซื้อนั้นมีจำนวนและรุ่นที่ผลิตออกมามากน้อยพียงใด หากเป็นบริษัทที่มั่นคงมีชื่อเสียงจะเห็นได้ว่ามีระบบการผลิต ระบบการจัดการอื่นๆ ที่ได้มาตรฐาน ทำให้วัสดุอุปกรณ์มีคุณภาพและน่าเชื่อถือ
10. การบริการซ่อมแซม (Available Service) อุปกรณ์เครื่องมือต่างๆ ควรเป็นแบบที่สามารถซ่อมแซมได้ง่าย รวดเร็วและมีบริการดูแลบำรุงรักษาที่เอาใจใส่ดูแลบำรุงสม่ำเสมอและมีอะไหล่สำรองไว้เพียงพอหรือเมื่อมีปัญหาทางบริษัทสามารถแก้ปัญหาให้รวดเร็ว

ที่มา : http://52040592sunita.blogspot.com/2011/12/5.html

ประเภทและหลักการจัดหาทรัพยากรการเรียนรู้

ประเภทและหลักการจัดหาทรัพยากรการเรียนรู้
1. ข่าวของมหาวิทยาลัยบูรพาในหน้าหนังสือพิมพ์จัดอยู่ในประเภทของทรัพยากรการเรียนรู้ใด และมีชื่อเรียกว่าอะไร
ตอบ ประเภท สื่อทรัพยากรการเรียนรู้ที่ตีพิมพ์ เรียกว่า สิ่งพิมพ์ต่อเนื่อง (หนังสือพิมพ์รายวัน)

 2. ถ้าต้องการคัดเลือกสื่อวีดิทัศน์มาให้บริการนิสิตจะมีหลักการอย่างไรในการคัดเลือกสื่อดังกล่าว
ตอบ -กำหนดเกณฑ์การประเมินเพื่อคัดเลือกทรัพยากรการเรียนรู้แต่ละประเภทให้ชัดเจน
 ต้องสัมพันธ์กับหลักสูตรการเรียนการสอนในสถานศึกษานั้น ๆ
 -เนื้อหาถูกต้อง ทันสมัย น่าสนใจ น าเสนอเนื้อหาได้ดีเป็นลำดับขั้นตอน
 -เหมาะสมกับวัย ระดับชั้น ความรู้ และประสบการณ์
-สื่อทรัพยากรการเรียนรู้ที่ไม่ตีพิมพ์ สะดวกในการใช้ ไม่ซับซ้อนยุ่งยากจนเกินไป
 -สื่อทรัพยากรการเรียนรู้ที่ไม่ตีพิมพ์ มีคุณภาพ มีเทคนิคการผลิตที่ดี มีความชัดเจนและเป็นจริง
-สื่อทรัพยากรการเรียนรู้ที่ไม่ตีพิมพ์ ราคาไม่แพงเกินไป
-สื่อทรัพยากรการเรียนรู้ที่ไม่ตีพิมพ์ ถ้าจะผลิตเองควรคุ้มกับเวลาและการลงทุน

3. การจัดซื้อทรัพยาการเรียนรู้มีกี่วิธีการ อะไรบ้าง
ตอบ       1.สั่งซื้อโดยตรง : ในประเทศ / ต่างประเทศ
              2. สั่ งซื้อผ่านร้าน/ตัวแทนจำหน่าย : ในประเทศ / ต่างประเทศ
              3. เว็บไซต์ : ในประเทศ / ต่างประเทศ

              4. จัดซื้อในรูปภาคีร่วมกับศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้สถาบันอุดมศึกษาอื่นๆ

หลักการรายงานผล

การรายงานผลมีความสำคัญอย่างไร ต่อการจัดการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้


ตอบ  การรายงานผลการดำเนินงานการจัดการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้เป็นส่วนสำคัญในการแสดงข้อมูลอย่างเป็นระบบให้กับผู้บังคับบัญชา หรือสาธารณชนได้รับทราบผลการดำเนินงาน และเป็นการนำเสนอเพื่อปรับปรุงในการดำเนินงานครั้งต่อ ๆ ไป

หลักการประสานงาน

1. สิ่งสำคัญเบื้องต้นของการประสานงานมีอะไรบ้าง
ตอบ 1. การจัดวางหน่วยงานที่ง่าย (Simplified Organization)
ในการจัดการศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้การจัดวางหน่วยงานควรคำนึงถึง
ก. การแบ่งแผนกซึ่งช่วยในการประสานงาน กล่าวคือ การจัดแผนกต่าง ๆ บางแผนกมีความจำเป็นต้องประสานกันควรอยู่ใกล้ชิดกัน เนื่องจากการติดต่ออย่างไม่เป็นทางการระหว่างผู้ที่ทำงานอันเกี่ยวเนื่องอย่างใกล้ชิดกันมากขึ้น
ข. การแบ่งตามหน้าที่
ค. การจัดวางรูปงานและระเบียบการที่ชัดแจ้งแก่ทุก ๆ คนที่เกี่ยวข้อง
2. การมีโครงการและนโยบายอันสอดคล้องต้องกัน (Harmonized Program and Policies)
3. การมีวิธีติดต่องานภายในองค์การที่ท าไว้ดี (Well – Designed Methods of Communication)
เครื่องมือที่ช่วยในการติดต่อส่งข่าวคราวละเอียด ได้แก่
ก. แบบฟอร์มในการปฏิบัติงาน (Working Papers)
ข. รายงานเป็นหนังสือ (Written report)
ค. เครื่องมือวิทยาศาสตร์ในการติดต่องาน เช่น ระบบการติดต่อภายในโรงพิมพ์ เป็นต้น
4. เหตุที่ช่วยให้มีการประสานงานโดยสมัครใจ (Aids to Voluntary Coordination)
 การประสานงานส่วนมากมักจะเกิดขึ้นจากการร่วมมือโดยสมัครใจของบุคลากรในศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู
5. ประสานงานโดยวิธีควบคุม (Coordination through Supervision)
 หัวหน้างานมีหน้าที่จะต้องคอยเฝ้าดูการดำเนินปฏิบัติงานต่าง ๆ เพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างสอดคล้องและจะต้องใช้วิธีประเมินผลการปฏิบัติงานทุกระยะจะได้ทราบข้อบกพร่องหาทางแก้ไขให้การปฏิบัติงานถูกต้องยิ่งขึ้น

2. เทคนิคการประสานงาน (Techniques Coordination) มีอะไรบ้าง
ตอบ  1. จัดให้มีระบบการติดต่อสื่อสารทั้งภายในหน่วยงานและภายนอกหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพ
2. การกำหนดอำนาจหน้าที่และตำแหน่งงานอย่างชัดเจน
3. การสั่งการและการมอบหมายอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบ
4. การใช้คณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่ประสานงานโดยเฉพาะการประสานงานภายในองค์การ
5. การจัดให้มีการประสานงานระหว่างพนักงานในองค์การ
6. การจัดให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาผู้ใต้บังคับบัญชา
7. การติดตามผล

 3. จงอธิบายอุปสรรคของการประสานงาน มาพอเข้าใจ
ตอบ  1. การขาดความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างผู้ปฏิบัติงานด้วยกันจะกลายเป็นสาเหตุทำให้การติดต่อประสานงานที่ควรดำเนินไปด้วยดี ไม่สามารถกระทำได้
2. การขาดผู้บังคับบัญชาหรือผู้บริหารที่มีความสามารถ
3. การปฏิบัติงานไม่มีแผน ซึ่งเป็นการยากที่จะให้บุคคลอื่น ๆ ทราบวัตถุประสงค์และวิธีการในการทำงาน
4. การก้าวก่ายหน้าที่การงาน
5. การขาดการติดต่อสื่อสารที่ดีย่อมทำให้การทำงานเป็นระบบที่ดีของความร่วมมือขาดความเข้าใจซึ่งกันและกัน
6. การขาดการนิเทศงานที่ดี
7. ความแตกต่างกันในสภาพและสิ่งแวดล้อม
8. การดำเนินนโยบายต่างกันเป็นอุปสรรคต่อการประสานงาน
9. ประสิทธิภาพของหน่วยงานต่างกันจะเป็นการยากที่จะก่อให้เกิดมีความร่วมมือและประสานงานกันเพราะแสดงว่ามีฝีมือคนละชั้น
10. การทำหน้าที่ความรับผิดชอบและอำนาจไม่ชัดแจ้งทำให้ผู้ปฏิบัติงานเกิดความกังวลใจและอาจไปก้าวก่ายงานของบุคคลอื่นก็ได้
11. ระยะทางติดต่อห่างไกลกัน
12. เทคนิคและวิธีการปฏิบัติงานในแต่ละหน่วยงานแตกต่างกันเนื่องมาจากการกุมอำนาจหรือการกระจายอำนาจมากเกินไป

ที่มา : เอกสารประกอบการเรียน

วันพฤหัสบดีที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

กิจกรรมที่ 3 โครงสร้างองค์กร

ให้นิสิตแต่ละคนหาตัวอย่างผังโครงสร้างของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ มาคนละ 2 ผังโครงสร้าง พร้อมเขียนอธิบายดังนี้
1. 
แหล่งอ้างอิงของโครงสร้างศูนย์
2. 
โครงสร้างดังกล่าวเป็นประเภทใด เพราะเหตุใด

ตอบ  1. ผังโครงสร้างของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ สำนักเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง

The Office of Education Technology Ramkhamhaeng University



แหล่งอ้างอิงโครงสร้างศูนย์
http://www.techno.ru.ac.th/


โครงสร้างดังกล่าวเป็นโครงสร้าง แบบ Line Organization เพราะ เป็นรูปแบบการจัดโครงสร้างตามงานที่รับผิดชอบในอำนาจหน้าที่กันเป็นขั้นๆ จากระดับสูงสุดไปจนกระทั่งต่ำสุด


2. ผังโครงสร้างของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ ศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา 
The Center for Educational Innovation and Technology





- แหล่งอ้างอิงโครงสร้างศูนย์
http://ceit.sut.ac.th/

- โครงสร้างดังกล่าวเป็นโครงสร้าง
แบบ Line and Staff Organization  เป็นรูปแบบการจัดโครงสร้างสำหรับหน่วยงานขนาดใหญ่ ซึ่งลำพังผู้บริหารคนเดียวไม่สามารถดำเนินการได้ จึงมีในรูปแบบของคณะกรรมการต่าง ๆ เข้ามาเป็นผู้ช่วยควบคุมการทำงานโดยมีอำนาจทางอ้อมในการดำเนินการนั้น ๆ

1.
ฝ่ายบริหารงานทั่วไป
แบ่งเป็น 4 งาน ได้แก่
-
งานธุรการ
-
งานการเงินและพัสดุ
-
งานแผนงานและงบประมาณ
-
งานประสานงานและบริการ

2.
ฝ่ายวิจัยและพัฒนาสื่อการศึกษา
แบ่งเป็น 4 งาน ได้แก่
-
งานจัดระบบและออกแบบสื่อการศึกษา
-
งานวิจัยและประเมินสื่อการศึกษา
-
งานบริการและเผยแพร่สื่อการศึกษา
-
งานจัดการฐานความรู้

3.
ฝ่ายผลิตสื่อคอมพิวเตอร์
แบ่งเป็น 3 งาน ได้แก่
-
งานผลิตสื่อบทเรียนคอมพิวเตอร์
-
งานผลิตสื่อประสม
-
งานผลิตสื่อกราฟิก

4.
ฝ่ายผลิตสื่อโสตทัศน์
แบ่งเป็น 3 งาน ได้แก่
-
งานผลิตวีดิทัศน์
-
งานผลิตด้านเสียง
-
งานศิลปกรรม

5.
ฝ่ายเทคนิควิศวกรรม
แบ่งเป็น 4 งาน ได้แก่
-
งานพัฒนาระบบปฏิบัติการ
-
งานเทคนิคและบำรุงรักษา
-
งานสถานีวิทยุโทรทัศน์
-
งานผลิตสื่ออิเล็กทรอนิกส์แบบผสมผสาน

6.
สำนักพิมพ์
แบ่งเป็น 2 งาน
-
งานวิชาการ
-
งานการตลาด

ที่มาของข้อมูล http://52041090nattharika.blogspot.com/2011/12/4.html


กิจกรรมที่ 2 หลักการวางแผน (planning)

กิจกรรมที่ 2 หลักการวางแผน (planning)

ให้นิสิตแต่ละคน หาตัวอย่างของศูนย์สำหรับการศึกษาตามอัธยาศัยมา คนละ 1 ศูนย์ โดยต้องอธิบายดังรายละเอียดต่อไปนี้
1. นโยบาย ของศูนย์ วิสัยทัศน์ และกลุ่มเป้าหมายของศูนย์
 2. แหล่งที่มาของศูนย์
 3. แผนการดำเนินงาน (ถ้ามี)

ตอบ ตัวอย่างศูนย์สำหรับการศึกษาตามอัธยาศัย ได้แก่ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม)
1. นโยบาย ของศูนย์ วิสัยทัศน์ และกลุ่มเป้าหมายของศูนย์
เป็นแหล่งเรียนรู้ที่ให้ความรู้เรื่องความเป็นมาของ บ้านเมือง จนมาเป็นประเทศไทยในปัจจุบัน เพื่อก่อเกิดการเรียนรู้ สร้างสำนึกรักบ้านเมืองและท้องถิ่นของตน รวมทั้งเชื่อมโยงความสัมพันธ์ในลักษณะ"เครือญาติ" กับประเทศเพื่อนบ้านอันเป็นองค์ความรู้ที่นำไปสู่ความมั่นคงและสันติภาพใน ภูมิภาค
กลุ่มเป้าหมาย
กลุ่มเป้าหมายหลัก คือ คนไทย ประกอบด้วยเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป กลุ่มเป้าหมายรอง คือ คนต่างประเทศ นักท่องเที่ยว

2. แหล่งที่มาของศูนย์

แหล่งที่มาของสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) ก็คือ การทำให้สังคมไทยเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ ทำให้คนไทยมี คุณภาพด้วยการที่สามารถแสวงหาความรู้ใหม่ๆ ด้วยตนเองได้ตลอดเวลา ดังนั้นสังคมจึงควรมีแหล่งที่จะแสวงหาความรู้ที่มีความหลากหลายในรูปแบบและ เนื้อหา ในประเทศที่พัฒนาแล้วส่วนมากจะมีแหล่งแสวงหาความรู้สำหรับคนในแต่ละช่วงวัย และมีความสนใจต่างๆ โดยมีทั้งห้องสมุด พิพิธภัณฑ์ ศูนย์วัฒนธรรม ศูนย์นันทนาการและกีฬา โรงละคร หอศิลป์ และสถานที่แสดงดนตรี รวมทั้งสนับสนุนให้ ชุมชนมีกิจกรรมเพื่อการเติบโตของความรู้ สติปัญญา และความงอกงามของจิตใจ สำหรับประเทศไทยซึ่งจำเป็นต้องขยายโอกาสทางการศึกษา ด้วยสถาบันใหม่ที่จะมารองรับการศึกษายุคปฏิรูปให้ทันกับโลกยุคการเรียนรู้ แบบไร้ขีดจำกัด (school without walls) เพราะคุณภาพชีวิตของคนรุ่นใหม่ให้คุณค่าต่อการศึกษาเรียนรู้ ที่ทำให้สามารถเข้าใจโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว สามารถเข้าใจปัญหาที่เผชิญหน้าควบคู่ไปกับความเพลิดเพลิน ประเทศจึงต้องการ "พิพิธภัณฑ์" ในฐานะที่เป็นสถาบันใหม่ที่สะท้อนความมั่นคงของสังคม วัฒนธรรม ลักษณะเฉพาะตน และความภาคภูมิใจในสังคมของตน

3. แผนการดำเนินงาน 

ลักษณะของพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติของประเทศไทย
เป็นพิพิธภัณฑ์ชั้นนำที่ทันสมัย มีแนวคิดในการนำเสนอที่ใช้แนวคิดเชิง Thematic approach คือ การนำเสนอแก่นเรื่องราวแทนการเน้นแต่วัตถุ ( object - based ) แบบสมัยก่อน เน้นการเรียนรู้ที่เข้าถึงผู้ชม ทุกกลุ่มเป้าหมาย ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยไม่จำกัดเพศ-วัย คุณวุฒิและฐานะทางสังคม มีการใช้แนวคิดแบบ Interactive approach เพื่อสร้าง ปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ชมและสิ่งแสดง พิจารณาเลือกใช้สื่อหลายประเภท ( multi-medium for the exhibition ) เพื่อเสริมสร้างความรู้และบรรยากาศในการเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมาย มีทั้งการจัดแสดงแบบถาวร และแบบหมุนเวียน มีกิจกรรม และกระบวนการเรียนรู้ที่ต่อเนื่องเพื่อสร้างความมีชีวิตให้แก่พิพิธภัณฑ์ พื้นที่ทางกายภาพเป็น Complex Museum ซึ่งประกอบด้วยกลุ่มอาคารที่ตอบสนองต่อการใช้งาน และการจัดแสดงที่หลากหลาย มีการศึกษาวิจัยต่อเนื่อง เพิ่มพูนองค์ความรู้แก่คลังความรู้ของประเทศชาติ เชื่อมโยงแขนงความรู้สากล กับ ภูมิปัญญาไทย มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ คล่องตัว และทันสมัย เปิดโอกาสแก่การมีส่วนร่วมของประชาชน นักวิชาการ ชุมชนและสังคม อย่างกว้างขวาง มีส่วนอำนวยความสะดวกครบถ้วน

ที่มาของข้อมูล http://52041090nattharika.blogspot.com/2011/12/4.html

กิจกรรมที่1 ประเภทของศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้

1. ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ถ้าแบ่งตามกลุ่มเป้าหมายของระบบการศึกษาได้กี่ประเภท อะไรบ้าง จงอธิบาย

ตอบ มี 3 ประเภท คือ
1. ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ สำหรับการศึกษาในระบบโรงเรียน หมายถึง หน่วยงานที่สนับสนุนการเรียนการสอนทั้งสื่อ วัสดุ อุปกรณ์ ซึ่งมีการดำเนินการได้หลายลักษณะและมีชื่อเรียก ชื่อเรียกศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ ได้แกศูนย์วัสดุการเรียน, ศูนย์โสตทัศน์และห้องสมุด, ศูนย์วัสดุอุปกรณ์การศึกษา ศูนย์สื่อการสอน, ศูนย์โสตทัศนวัสดุ, ศูนย์วัสดุการสอนหรือศูนย์วัสดุการศึกษา ศูนย์โสตทัศนูปกรณ์ หรือหน่วยบริการโสตทัศนูปกรณ์, สำนักเทคโนโลยีการศึกษา, ศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมการศึกษา เป็นต้น
2. ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ สำหรับการศึกษานอกระบบ   เป็นศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ ที่มีเป้าหมายโดยมุ่งการให้บริการกับผู้เรียนที่มีจุดมุ่งหมายที่จะให้ผู้เรียนได้รับความรู้ด้านพื้นฐาน ทักษะในการประกอบอาชีพ และทักษะที่จำเป็นสำหรับความรู้ด้านอื่นๆ เป็นฐานในการดำรงชีวิต เช่น ศูนย์ฝึกอาชีพ, ศูนย์การเรียน เป็นต้น
3. ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ สำหรับการศึกษาตามอัธยาศัย   เป็นศูนย์รวมและให้บริการความรู้โดยมุ่งให้กลุ่มเป้าหมายได้ศึกษาจากประสบการณ์การทำงาน บุคคล ครอบครัว สื่อมวลชน ชุมชน แหล่งความรู้ต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ความบันเทิง และการพัฒนาคุณภาพชีวิต เช่น พิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ เป็นต้น


2. ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร  จงอธิบาย

ตอบ  ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้แต่ละประเภทมีความแตกต่างกันในด้านเป้าหมายหรือจุดมุ่งหมายในการจัดตั้งที่แตกต่างกัน ซึ่งรายละเอียดมีดังนี้
ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ สำหรับการศึกษาในระบบโรงเรียน จัดตั้งขึ้นเพื่อสนับสนุนการเรียนการสอนทั้งสื่อ วัสดุ และอุปกรณ์
ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ สำหรับการศึกษานอกระบบ จัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการกับผู้เรียนเพื่อให้ผู้เรียนได้รับความรู้ด้านทักษะการประกอบอาชีพและความรู้ต่างๆ ที่เป็นฐานของการดำรงชีวิต
ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ สำหรับการศึกษาตามอัธยาศัย จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมให้บริการความรู้และผู้เรียนได้ศึกษาจากประสบการณ์ทำงาน บุคคล ครอบครัว สื่อมวลชน ชุมชน แหล่งความรู้ต่างๆ เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ความบันเทิง และการพัฒนาคุณภาพชีวิต


3. ให้นิสิตหาตัวอย่างศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ประเภท ละ 3 ศูนย์ พร้อมบอกสถานที่ตั้ง และกลุ่มเป้าหมายของศูนย์นั้นๆ พร้อมแหล่งอ้างอิง

ตอบ ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ สำหรับการศึกษาในระบบโรงเรียน
• สำนักเทคโนโลยีการศึกษา มหาวิทยาลัยรามคำแหง The Office of Education Technology Ramkhamhaeng University
สถานที่ตั้ง มหาวิทยาลัยรามคำแหง อาคารผาเมือง (PMB) หัวหมาก บางกะปิ กรุงเทพมหานคร 10240
กลุ่มเป้าหมาย นักศึกษาและคณาจารย์
แหล่งอ้างอิง http://www.techno.ru.ac.th/
ศูนย์นวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา The Center for Educational Innovation and Technology
สถานที่ตั้ง อาคารเครื่องมือ 7 (F7) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา
กลุ่มเป้าหมาย นักศึกษาและคณาจารย์
แหล่งอ้างอิง http://ceit.sut.ac.th/home/
ศูนย์บริการสื่อการเรียนรู้อิเล็กทรอนิกส์ e-Learning Center
สถานที่ตั้ง สำนักการศึกษา กรุงเทพมหานคร กองเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน 896 ถนนลาดหญ้า เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร 10600
กลุ่มเป้าหมาย นักเรียน ข้าราชการครู และบุคคลผู้สนใจ
แหล่งอ้างอิง http://www.bmamedia.in.th/

ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ สำหรับการศึกษานอกระบบ
• ศูนย์ฝึกอาชีพเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ครบ 36 พรรษา
สถานที่ตั้ง เลขที่ 104 ม.3 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150
กลุ่มเป้าหมาย เยาวชน และประชาชนทั่วไปที่มีอายุตั้งแต่ 14-35 ปีขึ้นไป ที่มีฐานะยากจนขาดแคลน และผู้ ว่างงานต้องการฝึกอาชีพ เพื่อเป็นรายได้เสริมให้แก่ครอบครัว
แหล่งอ้างอิง http://www.svtc.go.th/
• ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำริฯ (ภาคกลาง) และศูนย์สาธิตและส่งเสริมงานศิลปาชีพ
สถานที่ตั้ง กองพลทหารราบที่ 11 ค่ายสมเด็จพระนั่งเกล้า ถนนฉะเชิงเทรา-พนัสนิคม ต.คลองนา อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา 24000
กลุ่มเป้าหมาย เยาวชน เกษตรกร และประชาชนทั่วไป
แหล่งอ้างอิง http://www.padoong.com/
• สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานภาค 3 ชลบุรี
สถานที่ตั้ง 145 ม.1 ต.หนองไม้แดง อ.เมือง จ.ชลบุรี 2000
กลุ่มเป้าหมาย ประชาชนทั่วไป และผู้สนใจ

แหล่งอ้างอิง http://www.tabunchon.com/

ศูนย์ทรัพยากรการเรียนรู้ สำหรับการศึกษาตามอัธยาศัย

• สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม)
สถานที่ตั้ง เลขที่ 4 ถนนสนามไชย แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
กลุ่มเป้าหมาย คนไทย ประกอบด้วยเด็ก เยาวชน นักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป กลุ่มเป้าหมายรอง คือ คนต่างประเทศ นักท่องเที่ยว
แหล่งอ้างอิง http://www.ndmi.or.th/
• พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์
สถานที่ตั้ง เทคโนธานี ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ. ปทุมธานี
กลุ่มเป้าหมาย นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และบุคคลทั่วไป
แหล่งอ้างอิง http://www.nsm.or.th/index.php
• พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย
สถานที่ตั้ง 43/2 หมู่ 1 ถนนบรมราชชนนี (ปิ่นเกล้า-นครชัยศรี) กม. 31 ต.ขุนแก้ว อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม 73120
กลุ่มเป้าหมาย นักเรียน นักศึกษา เยาวชน และประชาชนทั่วไป
แหล่งอ้างอิง http://www.rosenini.com/thaihumanimagery/
ที่มาของข้อมูล http://52041090nattharika.blogspot.com/2011/12/4.html